"กรอบพระ" , "กรอบใส่พระ" คุณค่าที่คุณเลือกได้

“กรอบพระ” นับว่ามีส่วนสำคัญยิ่งต่อวงการพระเครื่อง เพราะการนิมนต์พระสักองค์ขึ้นคอ โดยเฉพาะถ้าเป็นพระผงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องนำไปอัดกรอบ หรือเลี่ยมเสียก่อน แต่ถ้าเป็นประเภทเหรียญ อาจจะนิมนต์ขึ้นคอได้เลย เพราะมีห่วงสำหรับร้อยกับสร้อย แต่มีข้อเสียอยู่ว่าเมื่อแขวนไปนานวัน หน้าพระจะสึก และเมื่อนำไปปล่อยเช่าจึงไม่ค่อยได้ราคา ภายหลังจึงต้องเลี่ยมเหรียญก่อนนิมนต์ขึ้นคอเช่นเดียวกัน

กรอบพระในตลาดแบ่งประเภทตามรูปทรงขององค์พระ อาทิ ทรงสี่เหลี่ยม ใบโพธิ์ รูปเหรียญ ซึ่งวัสดุที่ใช้มักขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า มีตั้งแต่พลาสติก สแตนเลส เงิน ทอง ราคาเฉลี่ยเริ่มต้นที่ 30 บาท หากเป็นกรอบพลาสติกทั่วไป หากเป็นกรอบเงินราคาจะอยู่ที่ 600-700 บาท แล้วแต่ประเภทหรือความละเอียดของผลงาน และจะขยับราคาขึ้นไปอีกเป็นหลักพันบาทจนถึงหลักหมื่นบาท เมื่อเป็นตลับทองประเภทงานฝีมือ

กรอบพระพิมพ์สมเด็จครองส่วนแบ่งตลาดกรอบพระสำเร็จรูปมากถึง 50 เปอร์เซนต์ ซึ่งขนาดของพระพิมพ์สมเด็จ จะมีประมาณ 7-8 ขนาด ขณะที่พระเครื่องที่ใส่กรอบสำเร็จแล้ว พบว่าพระหลวงพ่อโสธรได้รับความนิยมเป็นอันดับแรก รองลงมาคือ ล็อกเก็ตและเหรียญรัชกาลที่ 5 ส่วนที่มาเป็นอันดับ 3 คือ พระหลวงปู่ทวด

ต้องเข้าใจก่อนว่า พระเครื่องถือเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยประเภทหนึ่ง ความไม่แน่นอนจึงมีสูง อย่างไรก็ดีสิ่งที่ทำให้ธุรกิจกรอบพระอยู่ได้ คือวงการพระเครื่อง เนื่องจากคนที่มีพระอยู่กับตัวย่อมต้องการดูและรักษา และแน่นอนว่าเซียนพระหรือคนเล่นทั่วไปมักไม่มีพระในครอบครองแค่เพียงองค์เดียว ซึ่งหากนำมาใส่กรอบพระกับทางร้านครั้งแรกและพอใจย่อมมาครั้งต่อ ๆ ไป

สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งของธุรกิจดังกล่าวคือ ต้องมีสินค้าครบวงจร โดยเฉพาะหากเป็นผู้ประกอบการขนาดเล็ก เนื่องจากโดยส่วนมากไม่ได้มีลูกค้ามาเข้ากรอบพระเป็นประจำ บางครั้งสัปดาห์หนึ่งมีเพียงสองถึงสามราย ดังนั้นการมีสินค้าครบวงจรในร้าน ที่นอกเหนือจากกรอบพระ อาทิ สร้อยคอ กล่องเก็บพระ เข็มกลัดเหน็บ จะเป็นตัวเสริมดึงเงินออกจากกระเป๋าลูกค้าได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตามแม้คนทั่วไปอาจให้ความสำคัญกับมูลค่าของพระเครื่อง แต่หากมองผลประโยชน์ที่เกี่ยวเนื่องแล้ว จะพบว่ามีผลประโยชน์อีกมากมายมหาศาลที่เกิดขึ้นจากวงการพระเครื่อง และ “กรอบพระ” เป็นเพียงส่วนเสี้ยวหนึ่งเท่านั้น

ที่มา : http://www.tcijthai.com